หน่วยที่ 5 เรื่อง สมุดบัญชีแยกประเภท
|
|
|
บัญชีแยกประเภท หมายถึง
บัญชีที่รวบรวมการบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้นไว้เป็นหมวดหมู่
หลังจากการบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันทั่วไป เรียบร้อยแล้ว
จัดเรียงลำดับผังบัญชีของกิจการ เช่น บัญชีเงินสด
เป็นบัญชีที่รวบรวมรายการค้าที่เกี่ยวกับเงินสด บัญชีลูกหนี้ เป็นบัญชีที่รวบรวม
รายการค้าที่เกี่ยวกับลูกหนี้ การบันทึกรายการในแต่ละบัญชี
จะบันทึกไม่ปะปนกันเพื่อให้ตรงตามข้อเท็จจริง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
และสะดวก ในการค้าหาหรือแก้ไขข้อผิดพลาด |
|
ทุกครั้งที่มีรายการค้าเกิดขึ้น จะทำให้สินทรัพย์
หนี้สินและส่วนของเจ้าของ เปลี่ยนแปลงซึ่งมีผลทำให้ฐานะทางการเงินของกิจการ
เปลี่ยนแปลง ถ้ากิจการจัดทำงบดุลขึ้นทุกครั้งก็จำไม่สะดวกและเสียเวลา
ดังนั้นกิจการจะบันทึกรายการค้าในสมุดบันทึกรายวันทั่วไป ก่อน
จากนั้นก็จะจำแนกรายการค้าออกเป็นหมวดหมู่
โดยผ่านรายการจากสมุดรายวันทั่วไปไปบัญชีแยกประเภท ตามหลักบัญชีคู่
ทำให้กิจการสามารถนำข้อมูลมาจัดทำงบการเงิน
รายงานทางการเงินได้สะดวกและรวดเร็วดังนั้นความสำคัญของบัญชีแยกประเภท สรุปดังนี้
|
1.จำแนกรายการค้าออกเป็นหมวดหมู่ |
2.ค้นหาและแก้ไขข้อมูลได้ง่าย |
3.ไม่ต้องจัดทำงบดุลขึ้นทุกครั้งที่มีรายการค้าเกิดขึ้น |
4.สะดวกในการหายอดคงเหลือและจัดทำงบและรายงานต่าง ๆ เช่น งบทดลอง กระดาษทำการ
เป็นต้น |
5.ใช้เป็นหลักฐานในการอ้างอิง |
สมุดบัญชีแยกประเภท (Ledger) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
คือ |
1. สมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป (General Ledger)
เป็นสมุดที่รวบรวมหรือคุมยอดของบัญชีแยกประเภททุกบัญชี ซึ่งใช้บันทึก
การเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ หนี้สินและส่วนของเจ้าของ (ทุน)
ต่อจากการบันทึกลงในสมุดรายวันทั่วไป ได้แก่ บัญชีแยกประเภท
สินทรัพย์ เช่น บัญชีเงินสด บัญชีเงินฝากธนาคาร บัญชีลูกหนี้ บัญชีสินค้า
บัญชีวัสดุสำนักงาน บัญชีอาคาร เป็นต้น บัญชีแยก ประเภทหนี้สิน
เช่น บัญชีเจ้าหนี้การค้า บัญชีเงินกู้ บัญชีเจ้าหนี้อื่น ๆ เป็นต้น
บัญชีแยกประเภทส่วนของเจ้าของ เช่น บัญชีทุน บัญชีรายได้
(Income) บัญชีค่าใช้จ่าย (expense) และบัญชีถอนใช้ส่วนตัว |
2. สมุดบัญชีแยกประเภทย่อย (Subsidiary
Ledger)
เป็นที่รวบรวมของบัญชีแยกประเภทย่อยของบัญชีคุมยอด (Controlling Accounts)
ในสมุดแยกประเภททั่วไป เช่น สมุดบัญชีแยกประเภทลูกหนี้รายตัว บัญชีเจ้าหนี้รายตัว
ซึ่งยอดรวมของบัญชีแยกประเภท
รายตัวทั้งหมดจะเท่ากับยอดรวมในสมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป |
รูปแบบของบัญชีแยกประเภท ที่นิยมใช้กันทั่วไปมี 2
แบบ |
1. แบบบัญชีแยกประเภททั่วไป (แบบมาตรฐาน)
มีลักษณะคล้ายตัวอักษรภาษาอังกฤษ คือตัว T ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ด้าน
ทางด้านซ้ายมือคือด้านลูกหนี้หรือเดบิต (Debit)
ทางด้านขวามือคือด้านเจ้าหนี้หรือด้านเครดิต (Credit) |
|
2. แบบบัญชีแยกประเภทย่อย (แบบแสดงยอดดุล)
มีลักษณะคล้ายกับรูปแบบของสมุดรายวันทั่วไป แต่มีช่องยอดคงเหลือ เพิ่มขึ้นมา
เพื่อแสดงรายการคงเหลือทุกครั้งที่มีการบันทึกรายการและเมื่อต้องการทราบยอดคงเหลือ
|
|
|
การผ่านรายการ (Posting) หมายถึง
การนำรายการค้าที่บันทึกไว้ในสมุดขั้นต้นไปบันทึกไว้ในบัญชีแยกประเภทที่เกี่ยวข้อง
ตามลักษณะรายการค้าที่บันทึกไว้
ในสมุดขั้นต้นเมื่อผ่านรายการเสร็จแล้วต้องอ้างอิงหน้าบัญชีของสมุดขั้นต้นและเลขที่บัญชีแยกประเภทที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทราบว่ารายการเดบิตหรือเครดิตที่บันทึกไว้ใน
บัญชีแยกประเภทเป็นการผ่านรายการมาจากสมุดขั้นต้นประเภทใด หน้าบัญชีใด
และรายการในสมุดขั้นต้นที่บันทึกได้ผ่านรายการไปยังบัญชีแยกประเภทบัญชีใด
และเลขที่บัญชีอะไร |
การบันทึกรายการค้าในบัญชีแยกประเภท
1.
เปิดบัญชีแยกประเภททั่วไปและให้นำชื่อบัญชีที่เดบิตสมุดรายวันทั่วไปมาตั้งเป็นชื่อของบัญชีแยกประเภทและบันทึกไว้ทางด้านเดบิต
โดยเขียน พ.ศ. เดือน วันที่ ตามที่ปรากฏในสมุดรายวันทั่วไป
เขียนชื่อบัญชีที่เครดิตลงในช่องรายการและเขียนจำนวนเงินตามที่ปรากฏในสมุดรายวันทั่วไปลงในช่องจำนวนเงินที่เดบิต 2.
การผ่านรายการด้านเครดิตให้ปฏิบัติเช่นเดียวกันกับด้านเดบิตแต่เปลี่ยนมาบันทึกทางด้านเครดิตของบัญชีแยกประเภททั่วไป 3.
ในช่องรายการให้เขียนคำอธิบาย 3.1
ถ้าเป็นรายการเปิดบัญชีหรือการลงทุนครั้งแรก เช่น
กิจการนำสินทรัพย์หลายอย่างมาลงทุน และเจ้าหนี้ ให้เขียนในช่องรายการว่า
“สมุดรายวันทั่วไป”
แต่ถ้าเป็นการนำเงินสดมาลงทุนอย่างเดียวให้เขียนในช่องรายการเป็นชื่อบัญชีแยกประเภทตรงกันข้าม
3.2 ถ้าเป็นรายการเปิดบัญชีโดยเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่
ในช่องรายการให้เขียนคำว่า “ยอดยกมา”
ซึ่งหมายความว่าเป็นยอดคงเหลือยกมาจากรอบระยะเวลาบัญชีก่อน
3.3 ถ้ารายการระหว่างเดือน
ในช่องรายการให้เขียนชื่อบัญชีแยกประเภทตรงข้ามกัน
การบันทึกบัญชีในสมุดรายวันทั่วไปทางด้านเดบิตและเครดิต ถ้ามีการบันทึกบัญชีมากกว่า
1 บัญชีแล้ว รายการค้าลักษณะนี้เรียกว่า “รายการรวม” (Compound
Entries)
การผ่านรายการจากสมุดรายวันทั่วไปไปบัญชีแยกประเภททั่วไปนั้น
ในสมุดรายวันทั่วไปจะต้องใส่เลขบัญชีตามประเภทบัญชีนั้น ๆ
ที่ได้บันทึกไว้ในสมุดรายวันทั่วไปในช่อง “เลขที่บัญชี” และในช่อง “หน้าบัญชี”
ของบัญชีแยกประเภท จะใส่หน้าบัญชีของสมุดรายวันทั่วไปที่ผ่านรายการมา ซึ่งเรียกว่า
“การอ้างอิงการผ่านรายการ (Posting Reference)” |
|
|
การผ่านรายการค้าไปบัญชีแยกประเภท ดังนี้ |
ตัวอย่างที่ 1 วันที่ 1 มกราคม
2552 นาย ก. นำเงินสดมาลงทุนในร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า 80,000 บาท |
|
|
การบันทึกบัญชีในสมุดรายวันทั่วไป
|
|
1. เมื่อวิเคราะห์รายการค้าแล้ว
เราก็จะนำมาบันทึกรายการในสมุดรายวันทั่วไป
โดยยังไม่ต้องใส่เลขที่บัญชี นะครับ....
จากนั้นเราก็ |
2. ผ่านรายการไปยังบัญชีแยกประเภท โดย
กรอกรายละเอียดให้เรียบร้อยใส่เลขที่บัญชีให้ถูกต้องตรงหมวดบัญชี
การเขียนในช่องรายการให้เขียนชื่อบัญชี ตรงกันข้าม
และยอดเงินตามที่ปรากฏในช่องเดบิต หรือเครดิต ของบัญชี
การใส่หน้าบัญชีให้ดูตามรายการว่านำมาจากรายการค้าที่อยู่หน้าบัญชีใด |
มาดูการผ่านแยกประเภทกัน |
|
|
3. จากนั้นไปใส่ เลขที่บัญชีในสมุดรายวันให้ถูกต้อง |
........ต่อมาในวันที่ 5 มกราคม 2552 นาย ก.
กู้เงินจากธนาคารกรุงไทย 50,000 บาท มาใช้ในกิจการ |
|
การบันทึกบัญชีในสมุดรายวันทั่วไป |
|
|
|
......เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2552 ซื้อรถยนต์จากบริษัท โตโยต้า
มาใช้ในกิจการราคา 680,000 บาทจ่ายเงินสดทันที 200,000 บาท
ที่เหลือขอชำระในภายหลัง |
|
การบันทึกรายการในสมุดรายวันทั่วไป |
|
การผ่านรายการไปยังบัญชีแยกประเภท |
|
|
|
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น